วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

บทความที่ 4

Gloomy sunday


เพลงที่ทำให้มีคนฆ่าตัวตายมากที่สุดในโลก

กลูมมี่ ซันเดย์เป็นเพลงที่แต่งขึ้นโดยนักกวีชาวฮังการีผู้หนึ่ง ชื่อว่า "วันอาทิตย์ที่แสนเศร้า" แต่งโดยหนุ่มฮังกาเรียนนามเรสโซ เซเรสส์ (Reszo Seress) มันเริ่มมาจากเมื่อเดือนธันวาคม ปี1932 เรสโซเป็นที่เป็นนักแต่งเพลงยากจน เขาพยายามหาเลี้ยงชีพอยู่ในนครปารีส แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะเพลงแต่ละเพลงของเขาไม่ได้รับความสนใจ อีกทั้งคนรักของเขาก็ไม่เห็นดีเห็นงามด้วยจนทะเลาะกันอยู่หลายครั้ง ในที่สุดในวันหนึ่ง ทั้งคู่ก็ต้องถึงคราวแยกทางกัน ด้วยเหตุนี้ ในวันอาทิตย์วันหนึ่ง มันเป็นวันฝนตก เรสโซที่ทั้งหดหู่และเศร้าหมองด้วยเหตุการณ์ต่างๆก็ได้แต่งเพลงนี้ขึ้นในวันนั้น ซึ่งเป็นการบรรเลงทำนองด้วยเปียโน เขาใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็ประพันธ์เพลงเสร็จ จากนั้นจึงได้ส่งไปยังสำนักพิมพ์ต่างๆแต่ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับ และสุดท้ายก็มีสำนักพิมพ์บทประพันธ์แห่งหนึ่งรับไว้ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นหลังจากเพลงนี้ได้ถูกเผยแพร่ไปยังมหานครต่างๆทั่วโลก... ที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมันนี ชายหนุ่มคนหนึ่งได้ขอให้วงดนตรีเล่นเพลงกลูมมี่ซันเดย์ให้ฟัง หลังจากนั้น เขากลับบ้านและระเบิดศีรษะด้วยปืนรีวอลเวอร์หลังจากบ่นกับญาติๆว่าเขารู้สึกกดดันอย่างรุนแรงกับท่วงทำนองเพลงที่เขาไม่อาจลบมันออกไปได้ สัปดาห์ต่อมาที่กรุงเบอร์ลินสาวผู้ช่วยร้านขายของแขวนตัวตายอยู่ในแฟลตที่พัก พบบทเพลงกลูมมี่ซันเดย์อยู่ที่ห้องของเธอด้วย สองวันหลังจากนั้น เลขานุการิณีในนิวยอร์กได้ฆ่าตัวตายด้วยแก๊ส ในจดหมายลาตายได้ขอร้องให้เล ่นเพลงนี้ในงานศพของเธอด้วย สัปดาห์ถัดมา ชาวนิวยอร์กอีกรายเป็นชายวัย 82 ได้กระโดดหน้าต่างอพาร์ตเมนท์ชั้น 7 ลงมาตาย โดยก่อนตายเขาได้เล่นเพลงนี้ ในเวลาไล่เลี่ยกัน วัยรุ่นกรุงโรมก็กระโดดสะพานฆ่าตัวตายหลังจากที่ได้ฟังเพลงมรณะนี้เช่นเดียวกัน ไม่นานนักเจ้าหน้าที่รัฐบาลผู้หนึ่งก็ได้ยิงตัวตายหลังจากที่ได ้อ่านเนื้อเพลงนี้ รายต่อมาเป็นเด็กหญิงคนหนึ่งที่พยายามกินยาพิษเมื่อได้ยินเพลงน ี้จากเครื่องเล่นแผ่นเสียง ที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งในกรุงบูตาเบส ชายคนหนึ่งก็ไดยิงตัวตายในขณะที่เพลงนี้กำลังบรรเลงอยู่ และรายอื่นๆอีกมากมาย... และผู้ประพันธ์เพลงนี้เองก็ต้องเจอชะตากรรมอันเลวร้าย เมือคิดจะไปคืนดีกับคนรัก แต่ในเวลาต่อมาเขาก็รู้ว่า คนรักของเขาได้กินยาพิษฆ่าตัวตายไปแล้ว ที่ข้างร่างของเธอคือแผ่นกระดาษบทเพลงกลูมมี่ซันเดย์นั่นเอง รัฐบาลฮังการีได้สั่งห้ามไม่ให้เปิดเพลงนี้ออกอากาศ แต่เหตุการณ์นี้ก็ยังเกิดในที่อื่นๆอีก เช่นที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งทางบีบีซีก็ได้ถูกสั่งห้ามเปิดเพลงนี้เช่นกัน แต่ในสหรัฐอเมริกา ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ก็ตัดสินใจที่จะไม่ทำอย่างรัฐบาลอังกฤษและฮังการี โดยสรุปแล้วการฆ่าตัวตายนั้นได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเพลงนี้ประมาณ 200 รายทั่วโลก หรืออาจจะมากกว่านั่น และในปี 1968 ชาวอังกฤษคนหนึ่งก็ได้กระโดดจากชั้น 8 ของอาคารแห่งหนึ่ง เขาคือ เรสโซ เซเรสส์ ซึ่งไม่สามารถแต่งเพลงได้อีกหลังจากการแต่งทำนองเพลง "วันอาทิตย์ที่แสนเศร้า" และนี่เองคือที่มาสำหรับบทเพลงแห่งความตายที่มีชื่อว่า "วันอาทิตย์ที่แสนเศร้า" หรือ "gloomy sunday" Sunday is gloomy, my hours are slumberless Dearest the shadows I live with are numberless Little white flowers will never awaken you Not where the black coach of sorrow has taken you Angels have no thought of ever returning you Would they be angry if I thought of joining you? Gloomy Sunday Gloomy is Sunday, with shadows I spend it all My heart and I have decided to end it all Soon there’ll be candles and prayers that are sad I know Let them not weep let them know that I’m glad to go Death is no dream for in death I’m caressing you With the last breath of my soul I’ll be blessing you Gloomy Sunday Dreaming, I was only dreaming I wake and I find you asleep in the deep of my heart, here Darling, I hope that my dream never haunted you My heart is telling you how much I wanted you เนื้อเพลงแบบแปลไทย วันอาทิตย์ที่แสนเศร้า วันอาทิตย์นี้ช่างแสนเศร้า ฉันไม่สามารถจะล้มตัวลงนอนได้ ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความมืดที่ไม่มีวันจบสิ้น ดอกไม้ขาวเหล่านั้น จะไม่ช่วยให้เธอฟื้นขึ้นมาได้ (ขอบอกก่อนนิดนึงว่า ชาวตะวันตกเวลางานศพเค้าจะมาไว้อาลัยคนตายด้วยดอกไม้สีขาว) ไม่แม้กระทั้งที่ที่รถสีดำคันนั้นพาเธอไป (รถขนศพเมืองนอกเค้าจะเป็นเหมือนลิมูซีนคันเล็กสีดำ) เหล่าเทวดาทั้งหลายจะไม่มีวันคืนเธอกลับมาหาฉันได้ พวกเค้าจะโกรธมั๊ยถ้าฉันจะไปหาเธอแทน (หมายความว่า ถ้าเทวดาคืนเธอมาไม่ได้ ฉันก็จะฆ่าตัวตายไปหาเธอเอง) วันอาทิตย์ที่แสนเศร้า วันอาทิตย์นี้ช่างแสนเศร้า ฉันอยู่แต่ในความมืดมานานพอแล้ว ฉันและหัวใจของฉันได้ตัดสินใจที่จะจบทุกอย่างแล้ว อีกไม่นานฉันก็จะห้อมล้อมไปด้วยธูปเทียนและคำภาวนา ฉันรู้ว่ามันเศร้า แต่อย่าร้องไห้ไปเลย เพราะว่านี่เป็นสิ่งที่ฉันต้องการทำ ความตายสำหรับฉันไม่ใช่ความฝัน เพราะว่าฉันจะได้สัมผัสเธออีกครั้ง ด้วยลมหายใจสุดท้ายของฉัน ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอ วันอาทิตย์ที่แสนเศร้า นั่นเป็นเพียงแค่ความฝัน ฉันตื่นขึ้นมาเห็นเธออยู่เคียงข้างในใจของฉัน ฉันหวังว่าความฝันของฉันนั้นไม่ได้ทำให้เธอเศร้า
เพราะหัวใจของฉันกำลังบอกเธอว่า ฉันต้องการเธอมากแค่ไหน

ผลกระทบของเพลงมรณะในประเทศไทย 
จากกระแสการฟังเพลงผ่านอิน
เทอร์เน็ตที่มีมากขึ้นนั้น ล่าสุดพบว่ามีคนไทยกลุ่มหนึ่งนำบทเพลงมรณะ ที่อ้างว่ามีผู้ฟังแล้วฆ่าตัว
ตายกว่า 200 คน มาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์หลายแห่ง หลังจากผู้สื่อข่าวสืบหาข้อมูลตามกระทู้ใน
เว็บไซต์ต่างๆ พบว่า มีการนำเพลงมรณะมาเผยแพร่จริง ชื่อเพลง "กลูมมี่ซันเดย์" แต่งโดยชาว
ฮังการีผู้ผิดหวังในชีวิต เนื่องจากแฟนสาวฆ่าตัวตาย
ทั้งนี้ เว็บไซต์แห่งหนึ่งได้อ้างตัวอย่างผู้ที่ฆ่า
ตัวตายจากเพลงข้างต้น โดยเขียนโพสต์ลงในกระทู้ว่า ที่เยอรมนีชายหนุ่มคนหนึ่งขอให้วงดนตรี
เล่นเพลงกลูมมี่ซันเดย์ให้ฟัง หลังจากเขากลับบ้านก็บ่นกับสมาชิกในครอบครัวว่า รู้สึกกดดันอย่าง
รุนแรงกับท่วงทำนองเพลงนี้ และไม่อาจลืมหรือลบมันออกไปจากความคิดได้ ในที่สุดก็ตัดสินใจ
ใช้ปืนฆ่าตัวตาย เช่นเดียวกับเลขานุการหญิงในเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่ฆ่าตัวตายด้วยแก๊ส ซึ่งเขียนจดหมายลาตายระบุว่า ให้เล่นเพลงกลูมมี่ซันเดย์ในงานศพของเธอด้วย เจ้าของกระทู้ยืน
ยันว่ามีผู้ฆ่าตัวตายกว่า 200 คนเนื่องจากฟังเพลงข้างต้น
ทั้งนี้ความหมายในเนื้อเพลง  กลูมมี่ซันเดย์โดยสรุป จะเกี่ยวข้องกับวันอาทิตย์แสนเศร้า การใช้ชีวิตอยู่ในความมืดตลอดกาล ผู้ที่สูญเสียคนรักไปต้องการคนรักคืนมา แต่เทวดาคงไม่ยอม ดังนั้นคนนั้นจึงตัดสินใจที่จะไปตามหาคนรักในสวรรค์เสียเอง ขอให้ทุกคนไม่ต้องเสียใจ เพราะความตายจะทำให้เขาได้สัมผัสคนรักอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน น.ส.เกสินี ซาวนด์โปรดิวเซอร์ เจ้าของห้องบันทึกเสียงชื่อดังแห่งหนึ่ง ตั้งข้อสังเกตหลังจากฟังเพลงกลูมมี่ซันเดย์ว่า เพลงมรณะนี้มีลักษณะพิเศษคือ แต่งด้วยทำนอง
และเมโลดี้ที่วงการแต่งเพลงเรียกกันว่า "เพลงดาร์ก" หรือเพลงกดดันแบบหนักหน่วง ทำให้ฟัง
แล้วรู้สึกหดหู่สะเทือนใจขึ้นมาอย่างรุนแรง นอกจากนี้ เสียงร้องของผู้ร้องเพลงนี้ยังมีความ
โหยหวนเป็นอย่างมาก จึงอาจเป็นไปได้ที่จะทำให้คนฟังบางคนอยากฆ่าตัวตาย

"
เพลงนี้มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ลงตัว จึงกลายเป็นเพลงมรณะ ทำให้คนฟังอยากฆ่าตัวตายได้

 เสียงร้องที่โหยหวนเป็นจุดเด่นที่สุดของเพลงนี้ รวมกับท่วงทำนองและเมโลดี้ที่ดาร์กมาก 
แต่เนื้อร้องไม่ได้มีอะไรพิเศษนัก ถ้าเปลี่ยนทำนองเพลงนี้เป็นแบบเพลงป๊อป 
หรือเปลี่ยนเสียงคนร้อง เพลงนี้ก็แทบไม่มีความรันทดเหลืออยู่เลย" ผู้ เชี่ยวชาญด้านเสียงดนตรีกล่าววิเคราะห์
ด้านนายณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์ นักแต่งเพลงค่ายแกรมมี่ กล่าวว่า 

บทเพลงที่มีเนื้อหาเศร้าสร้อยท่วงทำนองที่ฟังแล้วรู้สึกหดหู่นั้น 
จะมีผลต่อสภาพจิตใจของผู้ฟังเป็นอย่างมาก และอาจเป็นไปได้ว่าหากผู้ฟังที่อยู่ในภาวะที่เศร้า
 เสียใจ อกหักรักคุด หรือมีเรื่องราวที่กระทบจิตใจที่รุนแรงอาจนำไปสู่การคิดสั้นฆ่าตัวตายได้
ด้าน น.พ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า บทเพลงที่มีเนื้อหาเศร้าสร้อย ความไม่สมหวัง การสูญเสีย ซึ่งฟังแล้วทำ
ให้สภาวะจิตใจห่อเ เ X ่ยว  มักมีอิทธิพลสูงสำหรับผู้ฟังที่อยู่ในสภาวะจิตใจที่ไม่ปกติ เช่น

 ผู้ที่เพิ่งสูญเสียคนรัก คนอกหัก คนไม่สมหวังในชีวิต เมื่อฟัง
เพลงที่มีเนื้อหาเศร้าสร้อย ก็จะยิ่งทำให้สะเทือนอารมณ์ และหากเนื้อหาของบทเพลงชี้นำไปสู่การ
ฆ่าตัวตาย ก็เป็นไปได้สูงที่ผู้ฟังจะทำตามการชี้นำนั้น

"
เด็กวัยรุ่นอายุระหว่าง 12-18 ปี เป็นวัยที่
เสี่ยงที่สุด เพราะภาวะจิตใจไม่คงที่ ไม่เข้มแข็ง เป็นช่วงที่เปราะบาง มักทนแรงเสียดทานไม่ค่อย
ได้ หากมีเรื่องราวที่ไม่สมหวัง ผิดหวัง เขาจะรู้สึกว่าชีวิตไม่มีค่า โดดเดี่ยว อ้างว้าง และเมื่อมี
โอกาสอยู่คนเดียวก็จะคิดมากฟุ้งซ่าน และหากเจอสิ่งเร้าที่ชี้นำไปสู่การฆ่าตัวตายก็เป็นไปได้สูงที่
คนกลุ่มนี้จะทำตาม" น.พ.บัณฑิต กล่าว
น.พ.บัณฑิต กล่าวด้วยว่า หากมีญาติหรือคนรู้จักโดย
เฉพาะเด็กวัยรุ่นที่ผิดหวังในชีวิต มีเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง ผู้ใกล้ชิดจะต้องคอย
ดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ และไม่สมควรที่จะให้ฟังเพลงเศร้าหรืออยู่คนเดียวตามลำพัง ทั้งนี้คนใกล้
ชิดจะต้องคอยปลอบใจ คอยให้กำลังใจ ต้องทำให้คนผู้นั้นเห็นว่ายังมีความสำคัญและยังมีคน
คอยห่วงใหญ่อยู่ 



http://www.oknation.net/blog/xpresso/2007/03/09/entry-1
https://www.youtube.com/watch?v=JPj2OeP7nxs




บทความที่ 3

ภาพยนต์เรื่อง รักหมดแก้ว


เรื่องย่อ Love on The Rock



 เรื่องนี้ มันก็มีอยู่ว่า

          กินเหล้าน่ะเมาได้ แต่กับ "หัวใจ" ห้ามเมา !

          ไฟเลี้ยว คิดเอาไว้ว่าการได้เป็นแฟนกับ บั๊กโจ้ นั้น จะทำให้ความรักของเธอ "โคตรชิล" เหมือนนั่งจิบเบียร์เย็น ๆ ริมทะเลตอนพระอาทิตย์ตกดิน…ไม่เร่งรีบ…ไม่เรียกร้อง…และไม่ผูกมัด

          ตามประสาชะนีอินดี้รักอิสระเหนือสิ่งอื่นใด ไฟเลี้ยววาดฝันไว้ว่าความรักที่ดี คือความรักที่ต่างฝ่ายต่างเว้นช่องว่างให้แก่กันและกัน ไม่ใกล้จนอึดอัดและไม่ไกลจนห่างเหิน เธอผ่านผู้ชายมาหลายคน ผิดหวังมาซ้ำซาก จนกระทั่งได้มาเจอกับ บั๊กโจ้ คนที่เหมือนจะ "ใช่" สุด ๆ

          บั๊กโจ้ เป็นหนุ่มตี๋หน้ามึนแสนอารมณ์ดี เจ้าของร้านเหล้าที่เหมือนเปิดไว้เป็นห้องรับแขกให้เพื่อน ๆ มาสังสรรค์ กะเอาฮาไม่หาผลกำไร เขาไม่เคยคิดจริงจังกับชีวิต เพราะคิดว่าอนาคตเป็นเรื่องอีกยาวไกล และ "เวลา" ก็เป็นทรัพยากรที่ใช้อย่างไรก็ไม่มีวันหมด

          ด้วยจังหวะการใช้ชีวิตที่เข้าคู่กันอย่างน่าอัศจรรย์ บั๊กโจ้และไฟเลี้ยวจึงตกลงใจคบหากันแบบหลวม ๆ กลางวันทำงาน กลางคืนสนุกสนานในวงเหล้าเคล้าเพลงร็อค โดยมีสมาชิกในก๊วนคอทองแดงที่พบปะกันทุกคืนไม่มีขาด อันประกอบไปด้วย พี่อุ๊ สาวเปรี้ยวไอดอลของไฟเลี้ยวเจ้าของคติ "ใช้ชีวิตให้มันส์ก่อนตาย จะได้ไม่อายยมบาล", พี่แมน คู่ปรับลับฝีปากกับพี่อุ๊ ผู้เชื่อว่า "ชีวิตวางแผนได้แน่ ขอแค่มึงรอบคอบพอ", พี่โบ้ ศาลพระภูมิของวงเหล้า เกาะติดขวดเหล้ายิ่งกว่าแสตมป์กรมสรรพสามิต ไหนจะมี พี่นุ ทายาทของมหาเศรษฐีพันล้านที่มีอาชีพหลักคือการค้นหาตัวเอง, ไอ้เจ๊ด เพื่อนสมัยมัธยมของไฟเลี้ยว ที่คิดว่าเพราะความหล่อเกินไปของตนเอง ทำให้ต้องผิดหวังในความรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า และ ยาย่า เพื่อนสาวแสนสุภาพ ที่ดื่มเหล้าแทนน้ำเปล่า

          แต่ทุก ๆ วงเหล้าย่อมต้องเลิกราฉันใด ชีวิตก็คงต้องมีจุดเปลี่ยนฉันนั้น และความรักก็ไม่ต่างกัน เมื่อถึงจุดหนึ่ง กติกาของหัวใจที่ไฟเลี้ยว ตั้งไว้เกิดสั่นคลอน และความเหยาะแหยะของบั๊กโจ้ก็ยิ่งแต่จะทำให้ชีวิตของเขาดิ่งลงเหว
ความรักของทั้งคู่กำลังแล่นมาถึง "ทางตัน" แถมเหล่าแก๊งเพื่อนขั้นเทพที่คอยเป็นที่ปรึกษาด้านหัวใจ ต่างก็แยกย้ายจากกันไปคนละทิศคนละทาง

          เขาทั้งสองกำลังจะได้เรียนรู้ว่า โลกที่พวกเขามองเห็นและวาดฝันตอนยังไร้เดียงสานั้น มันช่างแตกต่างกันอย่างลิบลับกับสิ่งที่ต้องเผชิญจริง ๆ

          มันเผ็ดร้อนกว่าเหล้ายี่ห้อใด ๆ ในโลก และเจ็บปวดกว่าเพลงรักทุกเพลงรวมกันจะยุติ "คําว่าเรา" หรือจะเลือก "เมากับคำว่ารัก" มีแต่ไฟเลี้ยวและบั๊กโจ้เท่านั้นที่จะเป็นผู้เลือก และการตัดสินใจครั้งนี้ ไม่มีโซดา ไม่มีโทนิค ไม่มีมิกเซอร์ มีแค่ "รักหมดแก้ว"


20 ข้อคิดบาดกระแทกใจที่ได้จากหนังเรื่อง “รักหมดแก้ว” Love on the rock



มีโอกาสได้ไปดูมารู้สึกอินและกระแทกใจกับทุกข้อคิดจากหนังเรื่องนี้มาก จนขนาดว่าดูจบไปกว่าชั่วโมงแล้วในหัวยังวนเวียนเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เลยชอบมากกก

เลยนั่งนึกๆ ข้อคิดจากเหล่าตัวละครเรื่องนี้มาแบ่งให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันค่ะ

1.เรื่องของความรักตามทฤษฏีมันง่าย แต่จะให้ทำมันยาก
2.อย่าไปพยายามตั้งกฏเกณฑ์ให้กับความรัก คิดจะรักก็รักเลย
3.ความรักที่มันยั่งยืนบนโลกนี้ไม่มีจริง
4.ผู้หญิงอยากจะแรดที่ไหนก็แรดด้ายยยย >_<
5.ผู้ชายชอบมองผู้หญิงแ ร ด แต่ไม่อยากให้ผู้หญิงของตัวเอง แ ร ด 
6.ผู้หญิงชอบปากแข็ง ปากบอกว่าไม่ แต่ใจบอกว่าใช่
7.ผู้ชายชอบบอกว่าเข้าใจ แต่จริงๆ ไม่เข้าใจอะไรเลย
8.ความรักก็เหมือนโอกาส มาตอนไม่ทันตั้งตัว และก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
9.เวลาของเรามีอยู่มาก แต่เราไม่รู้ว่าเราจะใช้ได้ถึงเมื่อไหร่
10.ทะเบียนสมรสไม่ใช่เครื่องหมาย ที่จะยืนยันว่าคนสองคนจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต


11.เรามักคิดว่าคนข้างๆ เข้าใจเรามากที่สุด และจะอยู่กับเราตลอดไป จนลืมใส่ใจเค้า
12.หากมัวแต่พูดและคิดเรื่องของตัวเอง สุดท้ายเราก็จะอยู่แบบตัวคนเดียวในโลก
13.เราดื่มเหล้าเพราะอะไรกันแน่ ชอบรส? ชอบบรรยากาศวงเหล้า อยากเมา? หรือกินเพราะอยากตื่นมาแล้วแฮงค์
แต่มันก็หมายความว่าเรายังมีชีวิตต่อไป
14.มิตรภาพในวงเหล้าอาจไม่สวยหรู แต่เมื่ออยู่ด้วยกันก็มีแต่ความสุขใจ
15.ความรักไม่ใช่การครอบครอง แต่ลึกๆ แล้วเราก็อยากเป็นเจ้าของเค้าทั้งนั้น
16.ชีวิตก็เหมือนการเล่นรถไฟเหาะ สนุก หวาดเสียว และมันก็สั้นนิดเดียว
17.ความรักในวัยรุ่นอาจสนุกดูไร้สาระ แต่มันคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต
18.เรื่องของอนาคตนั้นยังมาไม่ถึง แต่เราก็ควรคิดและวางแผนวันข้างหน้าไว้บ้าง
19.เต็มที่กับทุกวันในชีวิต อย่ามัวแต่เก็บเรื่องเศร้าไว้ในใจ
20.เพื่อนถึงแม้ไม่ได้เจอกัน แต่สุดท้ายมันก็คือเพื่อน
21.อย่าใช้คำบอกเลิกมาทำร้ายคนที่เรารัก
22.ชีวิตคนเราก็เหมือนเหล้า มีรสชาติ ไลฟ์สไตล์ และจิตวิญญาณที่ต่างกันออกไป
23.เหล้าก็เหมือนกับความรัก เรารู้ว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไรแต่เราก็ชอบที่จะลอง
24.คนเรามักจะเล่าแต่เรื่องดีๆ ของตัวเอง ฉะนั้นอย่ามัวอิจฉาหรืออยากเป็นแบบเค้า เพราะเราไม่รู้ว่าอีกด้านที่ร้ายของเค้า 
อาจจะหนักกว่าเราก็ได้

หนังเรื่องนี้สนุกและได้ข้อคิดเกี่ยวกับความรักและการใช้ชีวิตเยอะมากๆ 

ส่วนตัวเราชอบการแสดงของพี่มาช่ามากที่สุด นางพญา is back ได้เลยเพราะตอนแรกนึกว่าการแสดงของพี่มาช่าจะกลืนเหล่านักแสดงหน้าใหม่ อย่างปอนด์ ณปรัชญ์ (พระเอก), น้ำหวาน พิไลพร (นางเอก) รวมถึงสงกรานต์ เดอะวอยซ์, อ๊อฟ ปองศักดิ์, ป๊อป ปองกูล และเอ็ม บุดด้าเบส ให้หายไปเลย แต่ที่ไหนได้นอกจากเล่นบทตัวเองดีแล้วยังช่วยส่งให้นักแสดงเหล่านี้ให้ดูเด่นชัดขึ้นมาได้ดี บทพีช่าจะเปรี้ยวปากจัด กวน ตลกแกทำได้ดีทุกเม็ด พอบทจะเศร้าเท่านั้นละ ฉากนั้นเป็นอะไรที่อินมาก ดูแล้วเราร้องไห้ตามอย่างไม่ยากเลย

ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ก็จัดว่ามวยถูกคู่กับเจ๊มาช่าเลยโดยเฉพาะพี่อ๊อฟ พี่แกจัดเต็มมากออกมาซีนไหนนี่เตรียมฮาไว้ก่อนเลย แต่บทจะซึ้งตาพี่แกก็เศร้าซะเราร้องไห้ตามในฉากไคล์แมกซ์เลย มันเศร้าจริงๆ 

ส่วนในบทของพระนางนั้น ส่วนตัวว่าแข็งไปนี๊ดดดด เพราะอาจจะเป็นมือใหม่ แต่มาเจอฉากอารมณ์ที่พระเอกยืนตะโกนบนดาดฟ้านี่ทำให้เราอินและเราเข้าถึงตัวละครได้มากขึ้น เลยทำให้ช่วงหลังๆ เราค่อนข้างอินและเอาใจช่วยพระเอกมากขึ้น



แบบฝึกหัดที่ 8

บทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม               กลุ่มที่เรียน 3
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน             รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ - สกุล   นางสาวอาทิติยา  สารโสม   คณะการบัญชีและการจัดการ   สาขาการตลาด   รหัส   57010910238

คำชี้แจง จงพิจารณากรณีศึกษานี้
1) “นาย A ทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานได้ โดยทำการระบุ IP-Address โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย นาย B ที่ เป็นเพื่อนสนิทของนาย A ได้นำโปรแกรมนี้ไปทดลองใช้แกล้งนางสาว C เมื่อนางสาว C ทราบเข้าก็เลยนำโปรแกรมนี้ไปใช้และส่งต่อให้เพื่อนๆ ที่รู้จักได้ทดลอง” การกระทำอย่างนี้ ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมาย ใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย 
ตอบ เป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรม คือ นาย B และนางสาว C ไม่ได้ทำการขออนุญาต นาย A อย่างถูกกิจจะลักษณะ อาจทำให้นาย A เสียหายได้ และผิดกฎหมาย คือ  กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Law) สาระของกฎหมายนี้มุ่งเน้นให้การคุ้มครองสิทธิในความเป็นส่วนตัว ไม่ให้มีการนำข้อมูลของบุคคลไปใช้ในทางมิชอบ


2) “นาย J ได้ทำการสร้างโฮมเพจ เพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐาน อ้างอิงจากตำราต่างๆ อีกทั้ง รูปประกอบ เป็นการทำเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆ เด็กชาย K เป็นนักเรียน ในระดับประถมปลายที่ทำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย J” การ กระทำอย่างนี้ ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย


ตอบ  การกระทำนี้อาจกระทำขึ้นด้วยความสนุกสนาน ไม่ได้ตั้งใจทำให้เกิดความเสื่อมเสียถึงผู้ใด แต่การกระทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดความรำคาญแก่ผู้อื่น จึงเป็นการทำผิดจริยธรรมโดยตรง ทั้งการปลอมหลักฐาน และการหลอกลวง โดยไม่มีการทำการพิสูจน์ และยืนยันจากผู้ที่มีความรู้ความสามารถและขาดความน่าเชื่อถือ อาจทำให้ตนเองหมดความน่าเชื่อถือไปด้วย 

วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

แบบฝึกหัดที่ 7

บทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ                                                        กลุ่มที่เรียน 3
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                 รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ - สกุล   นางสาวอาทิติยา  สารโสม   คณะการบัญชีและการจัดการ สาขาการตลาด   รหัส   57010910238


คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. หน้าที่ของไฟร์วอลล์ (Firewall) คือ

     รูปแบบของโปรแกรมหรืออุปกรณ์ที่ถูกจัดตั้งอยู่บนเครือข่ายเพื่อทำหน้าที่เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่ายภายใน (Internet) โดยป้องกันผู้บุกรุก (Intrusion) ที่มาจากเครือข่ายภายนอก (Internet) หรือเป็นการกำหนดนโยบายการควบคุมการเข้าถึงระหว่างเครือข่ายสองเครือข่าย โดยสามารถกระทำได้โดยวิธีแตกต่างกันไป แล้วแต่ระบบ

2. จงอธิบายคำศัพท์ต่อไปนี้ ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสคอมพิวเตอร์ worm , virus computer, spy ware, adwareมาอย่างน้อย 1 โปรแกรม

Worm
          เวอร์มหรือมาโครไวรัส (Macro Virus) หมายถึงโปรแกรมซึ่งเป็นอิสระจากโปรแกรมอื่น ๆ โดยจะแพร่กระจายผ่านเครือข่ายไปยังคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ที่อยู่บนเครือข่ายการแพร่กระจายจะคล้ายกับตัวหนอนที่เจาะไซหรือซอกซอนไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ และแพร่พันธุ์ด้วยการคัดลอก (Copy)ตนเองออกและส่งต่อผ่านเครือข่ายออกไป เวอร์มเป็นไวรัสชนิดหนึ่งที่ใช้มาโครโปรแกรม (Macro Programming) ที่อยู่ในโปรแกรมประยุกต์ในการกระจายหรือแพร่พันธุ์ตัวเอง เช่น มาโครในโปรแกรมไมโครซอฟต์เวอร์ด (Microsoft Word) หรือไมโครซอร์ฟเอ็กเซล (Microsoft Excel) ดังนั้นเมื่อมีการรันโปรแกรมสคริปต์หรือมาโคร เวอร์มจะทำการแพร่กระจายตนเอง ตัวอย่างเช่น เวอร์มที่แนบมากับแฟ้มในอีเมล เมื่อผู้รับเปิดแฟ้มดังกล่าว เวอร์

Viruses Computer
          หมายถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ปรือชุดคำสั่ง ที่มนุษย์เขียนขึ้นมามีวัตถุประสงค์เพื่อรบกวนการทำงานหรือทำลายข้อมูล รวมถึงแฟ้มข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ ลักษณะการติดต่อของไวรัสคอมพิวเตอร์ คือไวรัสจะนำพาตังเองไปติด (Attach) กับโปรแกรมดังกล่าวก็เป็นเสมือนโปรแกรมพาหะในกำนำพาไวรัสแพร่กระจายไปยังโปรแกรมหรือระบบคอมพิวเตอร์อื่น ๆ หรือแม้กระทั่งแพร่กระจายในระบบเครือข่ายต่อไป

3. ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง 


บูตไวรัส
บูตไวรัส (boot virus) คือไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แพร่เข้าสู่เป้าหมายในระหว่างเริ่มทำการบูตเครื่อง ส่วนมาก มันจะติดต่อเข้าสู่แผ่นฟลอปปี้ดิสก์ระหว่างกำลังสั่งปิดเครื่อง เมื่อนำแผ่นที่ติดไวรัสนี้ไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ไวรัสก็จะเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ตอนเริ่มทำงานทันที

บูตไวรัสจะ ติดต่อเข้าไปอยู่ส่วนหัวสุดของฮาร์ดดิสก์ ที่มาสเตอร์บูตเรคคอร์ด (master boot record)และก็จะโหลดตัวเองเข้าไปสู่หน่วยความจำก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ไฟล์ไวรัส
ไฟล์ไวรัส (file virus) ใช้เรียกไวรัสที่ติดไฟล์โปรแกรม เช่นโปรแกรมที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต นามสกุล.exe โปรแกรมประเภทแชร์แวร์เป็นต้น


มาโครไวรัส
มาโครไวรัส (macro virus) คือไวรัสที่ติดไฟล์เอกสารชนิดต่างๆ ซึ่งมีความสามารถในการใส่คำสั่งมาโครสำหรับทำงานอัตโนมัติในไฟล์เอกสารด้วย ตัวอย่างเอกสารที่สามารถติดไวรัสได้ เช่น ไฟล์ไมโครซอฟท์เวิร์ด ไมโครซอฟท์เอ็กเซล เป็นต้น


หนอน
หนอน (Worm) เป็นรูปแบบหนึ่งของไวรัส มีความสามารถในการทำลายระบบในเครื่องคอมพิวเตอร์สูงที่สุดในบรรดาไวรัสทั้ง หมด สามารถกระจายตัวได้รวดเร็ว ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าหนอนนั้น คงจะเป็นลักษณะของการกระจายและทำลาย ที่คล้ายกับหนอนกินผลไม้ ที่สามารถกระจายตัวได้มากมาย รวดเร็ว และเมื่อยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ระดับการทำลายล้างยิ่งสูงขึ้น

4. ให้นิสิตอธิบายแนวทางในการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มาอย่างน้อย 5 ข้อ 


1.ควรลบอี-เมล์ที่น่าสงสัยว่ามีไวรัสแนบมา รวมทั้งอี-เมล์ขยะและอี-เมล์ลูกโซ่ทิ้งทันที
2.ห้ามรันไฟล์ที่แนบมากับอี-เมล์ซึ่งมาจากบุคคลที่ไม่รู้จักหรือไม่มั่นใจว่าผู้ส่งเป็นใครและไม่ทราบว่าไฟล์ดังกล่าวนั้นเป็นไฟล์อะไร ตลอดจนไฟล์ที่ถูกส่งด้วยโปรแกรมสนทนา (Chat) ต่างๆ เช่น IRC, ICQ หรือPirch เป็นต้น
3.ติดตั้งโปรแกรมต่อต้านไวรัส และต้องทำการปรับปรุงฐานข้อมูลไวรัสเป็นตัวล่าสุดอยู่เสมอ
4.(Emergency disk) ของโปรแกรมป้องกันไวรัส และปรับปรุงฐานข้อมูลในแผ่นอยู่เสมอ
5.ติดตั้งโปรแกรมปรับปรุงช่องโหว่ (patch) ของทุกซอฟต์แวร์อยู่เสมอ โดยเฉพาะ Internet Explorerและระบบปฏิบัติการ ให้เป็นเวอร์ชันใหม่ที่สุด
6.สร้างแผ่นกู้ระบบฉุกเฉิน 


5. มาตรการด้านจริยธรรมคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมกับสังคมปัจจุบัน ได้แก่

1. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายหรือละเมิดผู้อื่น
2. ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น
3. ต้องไม่สอดแนมหรือแก้ไขเปิดดูในแฟ้มของผู้อื่น
4. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
5. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
6. ต้องไม่คัดลอกโปรแกรมผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์
7. ต้องไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
8. ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน
9. ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอันติดตามมาจากการกระทำ
 
10.ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎระเบียบ กติกามารยาท จรรยาบรรณเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมอินเทอร์เน็ตเป็นระเบียบความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นเรื่องที่จะต้องปลูกฝังกฎเกณฑ์ของแต่ละเครือข่ายจึงต้องมีการวางระเบียบเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีระบบและเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน

แบบฝึกหัดที่ 6

บทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน                                      กลุ่มที่เรียน 3
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                 รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ - สกุล  นางสาวอาทิติยา  สารโสม   คณะการบัญชีและการจัดการ   สาขาการตลาด   รหัส   57010910238

คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว
1. การประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นความหมายของข้อใด?
    1. เทคโนโลยีสารสนเทศ
    2. เทศโนโลยี
    3. สารสนเทศ
    4. พัฒนาการ
ตอบ  2. เทศโนโลยี

2. เทคโนโลยีสารสนเทศใดก่อให้เกิดผลด้านการเสริมสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม?
   1. ควบคุมเครื่องปรับอากาศ
   2. ระบบการเรียนการสอนทางไกล
   3. การสร้างสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
   4. การพยากรณ์อากาศ
ตอบ  2. ระบบการเรียนการสอนทางไกล

3. การฝากถอนเงินผ่านเอทีเอ็ม (ATM) เป็นลักษณะเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศข้อใด?
   1. ระบบอัตโนมัติ
   2. เปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย
   3. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่างๆ
   4. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ตอบ   1. ระบบอัตโนมัติ

4. ข้อใดคือการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ?
   1. ระบบการโอนถ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
   2. บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต
   3. การติดต่อข้อมูลทางเครือข่าย
   4. ถูกทุกข้อ
ตอบ    4. ถูกทุกข้อ

5. เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงข้อใด?
   1. การประยุกต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
   2. ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี
   3. การนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์มาสร้างข้อมูลเพิ่มให้กับสารสนเทศ
   4. การนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล
ตอบ 3. การนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์มาสร้างข้อมูลเพิ่มให้กับสารสนเทศ

6. เครื่องมือที่สำคัญในการในการจัดการสารสนเทศในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร?
   1. เทคโนโลยีการสื่อสาร
   2. สารสนเทศ
   3. คอมพิวเตอร์
   4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 3. คอมพิวเตอร์

7. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ?
   1. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
   2. เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน หรือสอบถามผลสอบได้
   3. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้บุคคลทุกระดับติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว
   4. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ
ตอบ    1. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

8. ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์ที่ช่วยงานด้านสารสนเทศ?
   1. เครื่องถ่ายเอกสาร
   2. เครื่องโทรสาร
   3. เครื่องมินิคอมพิวเตอร์
   4. โทรทัศน์ วิทยุ
ตอบ   4. โทรทัศน์ วิทยุ

9. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ เทคโนโลยีสารสนเทศ?
   1. เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานธุรกิจ
   2. พัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล และการสื่อสาร
   3. ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
   4. จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น
ตอบ    3. ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์


10. ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการเรียน?
   1. ตรวจสอบผลการลงทะเบียน ผลการสอบได้
   2. สามารถสืบค้นข้อมูลได้จากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ทั่วโลกได้
   3. ติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ครู อาจารย์ หรือส่งงานได้ทุกที่
   4. ถูกทุกข้อ
ตอบ    4. ถูกทุกข้อ